Properties
#HelloFrontend #HelloErmine #HelloWorld2021
Properties เป็นคุณลักษณะต่าง ๆ ที่เราสามารถกำหนดเพื่อจัดการหน้าเว็บไซต์ของเราได้ เช่น สี ความกว้าง ขอบของข้อความ ฯลฯ โดยมีหลากหลาย properties ที่จำเป็นเเละน่าสนใจ โดยยกตัวอย่างที่สำคัญ ดังนี้
Background
background เป็นการกำหนดลักษณะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาพพื้นหลัง
background-repeatกำหนดการเเสดงผลภาพพื้นหลังซ้ำ/การ repeat ภาพพื้นหลังbackground-positionกำหนดตำเเหน่งของภาพพื้นหลังว่าจะให้อยู่ตรงจุดไหนbackground-attachmentกำหนดว่าจะให้ภาพพื้นหลังขยับตามการขยับเมาส์หรืออยู่นิ่งที่จุดเดิม
ตัวอย่างของ background

ผลลัพธ์

ในการใส่ภาพพื้นหลังที่นำมาจากไฟล์ภาพเเหล่งอื่น ๆ จะใช้ background-image ในการเขียน เเละตามด้วย url ของภาพ เเละจะเห็นว่าภาพจะเเสดงผลเพียงรูปเดียว ไม่มีการซ้ำรูปให้เต็มหน้าเว็บไซต์ เนื่องจากกำหนดไว้ให้เป็นเเบบ no-repeat เเละภาพจะเเสดงผลบริเวณด้านบนขวาของเว็บไซต์ตามที่ตั้ง position เอาไว้ ในส่วนของ attachment นั้น หากหน้าเว็บไซต์มีความยาวมากจนต้องทำการ scroll เมาส์ ในการตั้งค่า fixed นี้จะทำให้ภาพพื้นหลังไม่ขยับไปตามการเลื่อนของเรา เเต่จะยังคงอยู่ในตำเเหน่งเดิม
Text
text เป็นการกำหนดลักษณะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อความ
text-alignกำหนดตำเเหน่งของข้อความว่าจะให้อยู่ส่วนไหนของหน้าเว็บไซต์/block นั้น ๆ
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์
text-decorationกำหนดลักษณะเพิ่มเติมให้ข้อความเพื่อเน้น โดยเป็นการขีดเส้น เช่น ขีดเส้นใต้ข้อความ มักใช้คู่กับ tag a ที่เป็นลิงก์ข้อความ
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

text-shadowกำหนดค่าสำหรับการเเสดงเงาของตัวอักษร
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์
Font
font เป็นการกำหนดลักษณะต่าง ๆ ของตัวอักษร
font-familyกำหนดรูปแบบของตัวอักษรที่ต้องการใช้ โดยปกติจะใช้ตัวอักษรที่มีอยู่ในเครื่องของผู้ใช้งาน และจะหลีกเลี่ยงการเลือกใช้ตัวอักษรที่ไม่แน่ชัด (กำหนดฟอนต์ที่เราจะพิมพ์ตัวอักษร)
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

font-sizeกำหนดขนาดตัวอักษร
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

font-styleกำหนดลักษณะตัวอักษร เช่น ตัวเอียง เป็นต้น
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์
font-weightกำหนดความหนาของตัวอักษร
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

*BOX MODEL*

จะเกี่ยวกับการกำหนดรูปแบบของกรอบหรือขอบเขตของ element ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้น ๆ ในการออกแบบเว็บไซต์
Float
float มีหน้าที่ทำให้ element นั้นอยู่ในตำแหน่งที่เรากำหนด และอนุญาตให้ text หรือ element อื่น ๆ ล้อมรอบ float ได้
โดยที่เราจะใช้คำสั่งนี้ได้ element นั้นต้องมี div ครอบไว้
ก่อนกำหนดค่า float

หลังกำหนดค่า float
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

Margin
margin ใช้กำหนดพื้นที่ภายนอกเส้นขอบ (border) หรือก็คือระยะห่างระหว่างเส้นขอบกับสิ่งอื่น ๆ ภายนอก (มักใช้คู่กับ float)
ก่อนกำหนดค่า margin (มีการกำหนดค่า float ให้เป็น left)

marginใช้การกำหนดระยะห่าง/พื้นที่ว่างในทุก ๆ ด้านพร้อมกัน
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

จะเห็นได้ว่า element “margin example2” ที่ทำการตั้งค่า margin จะขยับออกห่างจาก element อื่น ๆ ในทุก ๆ ด้านเป็นค่า 3 em
margin-top/right/bottom/leftใช้กำหนดระยะห่างในแต่ละด้าน
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

จะเห็นได้ว่า element “margin example2” ที่ทำการตั้งค่า margin-top จะขยับออกห่างจาก element อื่น ๆ ด้านบนด้านเดียวเป็นค่า 3 em
ที่ element “example2” อยู่ทางด้านขวา เนื่องจากตอนที่กำหนดค่า float นั้นกำหนดให้ทั้ง “example1” เเละ “example2” เป็นค่า left เเละ div ของ “example2” เขียนอยู่ด้านหลัง div ของ “example1” ทำให้ไปอยู่ด้านขวา
Border
border เป็นการกำหนดลักษณะของขอบ
border-styleกำหนดลักษณะรูปแบบของเส้นขอบ เช่น ขอบแบบเส้นปะ ขอบแบบจุดไข่ปลา ขอบแบบเส้นทึบ เป็นต้น
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

border-widthกำหนดขนาด/ความกว้างของเส้นขอบ
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

border-colorกำหนดสีของเส้นขอบ
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

borderใช้กำหนดทั้งรูปแบบเส้นขอบ ขนาด และสีพร้อมกันได้ โดยพิมพ์ค่าที่ต้องการเรียงตามลำดับ (รูปเเบบ-ขนาด-สี)
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

Padding
padding เป็นการกำหนดระยะห่างระหว่างพื้นที่ของเนื้อหา (content area) กับเส้นขอบ (border)
paddingใช้ในการกำหนดระยะห่างในทุก ๆ ด้านพร้อมกัน
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

padding-top/right/bottom/leftใช้กำหนดระยะห่างในแต่ละด้าน
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์

จะเห็นได้ว่ามีเเค่ด้านบนที่มีระยะห่างมากกว่าด้านอื่น เนื่องจากเรากำหนดให้เเตกต่างด้านเดียว
Color
color กำหนดสีของ element ต่าง ๆ ![]()
ตัวอย่าง
ผลลัพธ์
Last updated
Was this helpful?